ฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก 5 ข้อควรรู้ก่อนทำสวย! ดื้อโบคืออะไร!?

5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนฉีดโบ

ฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก … ช่วงนี้กำลังเป็นเทรนในทวิตเตอร์เลยค่ะ กับเรื่อง “ก่อนอายุ 30 เราควรทำอะไรบ้าง?” แล้วก็จะมีที่เขียนมาว่า ต้องเริ่มฉีดโบได้แล้ว ถามว่าเห็นด้วยไหมก็ต้องบอกว่าค่อนข้างนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนบุคคล

บางคนอาจจะเฉย ๆ กับการมีริ้วรอยบนใบหน้าเพียงเล็กน้อยในวัย 30 แต่บางคนอาจจะมีริ้วรอยมานานแล้ว ไม่เคยฉีดเลย อันนี้แอดมินแนะนำว่า อย่างน้อยก็อาจจะต้องลองไปปรึกษาคุณหมอสักครั้งจริง ๆ ค่ะ เพราะถ้าจาก Dynamic Line (ริ้วรอยเมื่อแสดงสีหน้า) กลายเป็น Static Line (ริ้วรอยถาวร) เมื่อไหร่ จะแก้ยากมากๆ

  • ริ้วรอยมีกี่แบบ
  • ริ้วรอยแบบไหนแก้ยากที่สุด
  • 5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนฉีดโบ
  • สรุป

ริ้วรอยมีกี่แบบ

Dynamic Line

Dynamic Line อย่างแรกจะเป็น “ริ้วรอยที่เห็นเมื่อแสดงสีหน้า” อาทิเช่น หน้ายิ้ม เลิกคิ้ว ขมวดคิ้ว อาจจะมีได้ตรงบริเวณหางตา หน้าผาก หรือ หัวคิ้ว บางคนมีบาง ๆ บางคนรอยย่นเยอะ ก็ขึ้นอยู่กับการแสดงสีหน้า อารมณ์ การออกอรรถรสในการคุย คนอารมณ์ดี ๆ ยิ้มเยอะหน่อยอาจจะมีริ้วรอยบริเวณหางตาเยอะ ใครหงุดหงิดง่ายอาจจะมีตรงบริเวณหัวคิ้วที่ขมวดประจำเยอะนั้นเอง

static-Line

Static Line อย่างที่สองจะเป็น “ริ้วรอยที่เห็นแม้ไม่แสดงสีหน้า” จุดที่จะมองเห็นชัดเจนก็คือจุดที่แสดงออกทางอารมณ์บ่อยตาม Dynamic Line ข้างต้นนั้นเองค่ะ เกิดจากการที่หน้าเราสูญเสียความยืดหยุ่นไป พวกอิลาสตินคอลลาเจนเมื่ออายุเยอะก็หายไปตามเวลา รวมกับจุดที่แสดงอารมณ์บ่อย ๆ เลยเกิดริ้วรอยทิ้งไว้ถาวรบนใบหน้า

ริ้วรอยแบบไหนแก้ยากที่สุด

ตอบได้เลยค่ะว่าริ้วรอยที่แก้ยากที่สุดคือ Static Line เนื่องจาก รอยนั้นฝังลึกแล้ว เหมือนโครงสร้างของผิวและกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเราจำได้แล้วว่า ต้องมีการพับแบบไหน ยิ่งพออายุมากขึ้นคอลลาเจนและอิลาสตินหายไป ก็ทำให้รอยยิ่งลึก ยิ่งผิวแห้งรอยยิ่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ

ซึ่งการฉีดสารลดริ้วรอยตั้งแต่เริ่มเป็น Dynamic Line ก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นลดการทำงานลง ไม่ย่นไม่พับจนกลายเป็นริ้วรอยถาวร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีการบำรุงผิวร่วมด้วย เช่น การใช้ Moisturizer สารให้ความชุ่มชื้นกับผิวเป็นประจำ พอผิวเราชุ่มชื้นไม่แห้ง ผิวก็จะเหี่ยวช้าลง ริ้วรอยก็จะเกิดได้ยากขึ้นนั้นเอง

5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนฉีดโบ

1.ควรเริ่มฉีดเมื่อไร

สำหรับคำถามว่าจริงๆควรเริ่มฉีดเมื่อไรนั้น จริงๆ ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนเลยค่ะ แต่ก็มีวิจัยที่เปรียบเทียบคู่ฝาแฝด ที่คนนึงฉีดโบประจำ กับ อีกคนที่นาน ๆ ฉีดที แน่นอนว่าผลสรุปออกมา คนที่ฉีดโบท็อกซ์ประจำ หน้าจะเด็กกว่าคนที่นาน ๆ ฉีดทีค่ะ

ผมเลยขอแนะนำว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่คนไข้แสดงสีหน้าแล้วมีริ้วรอย หรือ เริ่มรู้สึกกังวล ไม่มั่นใจในเรื่องริ้วรอยก็สามารถเริ่มฉีดได้เลยค่ะ หรือถ้าคนไข้ท่านไหนต้องการปรับรูปหน้า เช่น ต้องการฉีดลดขนาดกราม ก็สามารถเริ่มฉีดได้เลยเมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไปค่ะ

2.ฉีดโบวันนี้ เห็นผลวันไหน

สำหรับบริเวณริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หางตา หน้าฝาก หว่างคิ้ว จะใช้เวลา 2 สัปดาห์ก็จะเห็นผลค่ะ ส่วนถ้าเป็นการลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณกรามจะใช้เวลาในการเห็นผลอยู่ที่ 1 เดือนค่ะ

ในคนที่ฉีดฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์หน้า สามารถเห็นผลได้ทันที 10-20%  และเห็นผลชัดที่สุด 2 สัปดาห์หลังทำค่ะ โดยรวมโบท็อกซ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือนในแบรนด์เกาหลี และในแบรนด์เยอรมันจะอยู่ได้ 6-8 เดือนค่ะ

3.การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

การฉีดหัตถการนี้ ใช้เข็มเล็กดันตัวยาไปในบริเวณ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องการหยุดยาหรือเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษเลยค่ะ พวกวิตามินต่าง ๆ คนไข้สามารถทานได้ตามปกติ หรือ หากคนไข้กังวลเรื่องเลือดหยุดยาก หรือ การบวมช้ำง่าย ก็สามารถหยุดก่อนได้ค่ะ แต่ที่สำคัญก็คือ ไม่ควรลอกผิวหน้า ผลัดเซลล์ผิว หรือเลเซอร์หน้าก่อนมาฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ค่ะ

4.การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์

อย่างแรกคือ หลังฉีดโบท็อกซ์เสร็จห้ามนอน 4 ชั่วโมงค่ะ คือควรยืนหรือนั่งตรง ๆ ก่อน อย่างเช่นถ้าฉีด ตอน 1 ทุ่ม ควรจะเอนตัวนอนอีกทีตอน 5 ทุ่ม ห้าม! กดบริเวณที่ฉีด งดการนวดหน้า ล้างหน้าอย่างเบามือ  ไม่ออกกำลังกายหนักช่วง 2-3 วันแรก และ หลีกเลี่ยงกลุ่มความร้อน เลเซอร์ ซาวน์หน้า นวดหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ รวมถึงถ้าหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือ สูบบุหรี่ด้วยจะดีมากเลยค่ะ

5.ฉีดบ่อยแค่ไหนถึงดื้อโบ

ตามงานวิจัยเราไม่ควรเราฉีดโบท็อกซ์ในระยะเวลา 84 วัน (หรือตีง่ายๆว่า 3 เดือน) หลังรอบที่ฉีดล่าสุด ดังนั้นในกรณีที่คนไข้ต้องการฉีดหางตา และ อีก 2 สัปดาห์อยากฉีดกราม อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อน ว่าสามารถทำได้ไหม ควรแจ้งแพทย์ให้ชัดเจนก่อนทุกครั้งว่า ปกติฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้ออะไร ฉีดมาล่าสุดเมื่อไหร่ ต้องจดไว้นะคะ จะได้เป็นอีกอย่างที่ช่วยป้องกันไม่ให้เราดื้อโบท็อกซ์ในอนาคต

สรุป ฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก

ถึงแม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์จะเป็นหัตถการแรก ๆ ที่คนเลือกทำกัน เพราะ เห็นผลชัดเจน ราคาไม่แพงมาก ทำได้ง่าย ไม่ต้องดูแลตัวเองเยอะ แต่ก็ต้องระวังนะคะ ถึงแม้จะมีคลินิกฉีดมากมาย แต่ผลของการฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ สามารถทำให้เรามีปัญหาตาตกหลังฉีดโบท็อกซ์ได้ เนื่องจากฉีดผิดชั้นผิดจุด หรือมากกว่านั้น ก็สามารถเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราดื้อโบท็อกซ์ในอนาคตได้ ดังนั้น แนะนำว่าให้ฉีดกับแพทย์ที่เก่ง ๆ หรือ เชี่ยวชาญในการทำหัตถการบริเวณใบหน้าเท่านั้นค่ะ