รอยช้ำใต้ตา หลังทำหัตถการทำไงดี? … เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่า เวลาหมอด้านความงามเวลาเค้าอยากทำสวยบ้าง ต้องทำกับใคร หมอสามารถทำหัตถการฉีด ผ่า นู่นนี่นั่น ให้กับตัวเองได้ไหม?
ผม “หมอเฟิสท์” ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ตาสองชั้นให้คนไข้มานับหมื่นเคส วันนี้จะมารีวิวพลีชีพ ขอลองฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ตัวเองบ้างครับ! พร้อมเก็บผลทุกวันให้ดูเลย ว่าหมอจะสามารถส่องกระจกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ตัวเองได้ไหม ผลลัพธ์จะสวยเหมือนฉีดให้คนไข้หรือเปล่า แล้วจะรอดไม่รอด อ่านได้ในบทความนี้เลยครับ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อย่างที่ผมประเมินตัวเองว่า โอเคเราเป็นหมอด้านนี้ ถึงเวลาที่ต้องปรับบริเวณรอบดวงตาให้ตัวเองบ้างแล้ว เพราะถ้าเราใต้ตาลึก คนไข้มาปรึกษาแล้วอาจจะคิดในใจว่า หมอไม่ฉีดให้ตัวเองบ้างหรอคะ? (ขำ) ผมก็เลย ลองฉีดฟิลเลอร์ให้ตัวเองดูครับ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะระหว่างฉีดมีหมออีกท่านที่เป็นเพื่อน คอยดูแลอยู่ตลอดครับ
ผมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยตัวเองด้วยเข็มทู่ โดยเริ่มจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ข้างซ้ายก่อน ซึ่งบอกเลยว่าไม่ง่ายนะครับ การวางมือ องศา ยากกว่าที่ทำให้คนไข้เยอะมาก เราทำให้ตัวเองก็ต้องมองผ่านกระจก ที่ต้องมีสติในการฉีดอีก เพราะมันจะสลับกันกับที่เรามอง เรียกได้ว่า เหมือนเล่นเกมฝึกสมาธิเลยตอนนั้น
ฉีดข้างซ้ายผ่านไปด้วยดี สวยงาม เรื่องพีคก็คือฝั่งขวาที่แหละครับ ตอนฉีดเสร็จก็คือเห็นลาง ๆ ครับว่ามีความแดงเกิดขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าการจับที่ไม่ถนัด ร่วมกับการมองผ่านกระจกที่ค่อนข้างยาก เลยทำให้กลายเป็นฝั่งที่มีรอยช้ำตามแนวเข็มตามที่เห็นในภาพครับ
รีวิว รอยช้ำใต้ตา จากการฉีดฟิลเลอร์
ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่า รอยช้ำเกิดจาก การที่ร่างกายได้รับแรงกระแทกไม่ว่าจะหนักจะเบา ซึ่งทำให้หลอดเลือดใต้ผิวหนังแตก และ มีการรั่วออกมารอบๆ เราเลยเห็นเหมือนสีม่วงอมแดงในช่วงแรก หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นเขียวอมเหลือง และ กลายเป็นสีน้ำตาล สุดท้ายจะหายกลืนไปกับสีผิวเราตามปกติครับ
ซึ่งผมก็จะมารีวิวรอยช้ำหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยตนเอง ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะตามภาพที่เห็นเลยครับ วันแรกหลังที่ฉีดเสร็จจะเป็นวันที่เห็นความช้ำมากที่สุด ซึ่งรอยช้ำก็จะเป็นตามแนวรอยเข็มเลยครับ อย่างที่เห็นว่าข้างนึงที่ทำช้ำจะมีรอยช้ำ ส่วนอีกข้างไม่มีรอยเลย
อย่างที่เห็นว่ารอยหลัก ๆ จะคงอยู่ประมาณ 3 วันแรกเท่านั้น และ จะค่อยจางลงเรื่อย ๆ โดยรอยจะจางชัดที่สุดก็คือประมาณ 1 อาทิตย์ครับ โดยตามหลักแล้วระยะเวลาที่ฟิลเลอร์เข้าที่จะอยู่ที่ 2 อาทิตย์ เราก็จะได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังเลยครับ
รอยช้ำหลังการฉีดฟิลเลอร์จริง ๆ แล้วไม่ได้น่ากลัวเลยนะครับ เพราะสามารถหายไปได้เองเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ซึ่งผมขอย้ำอีกรอบว่า รอยช้ำในรูปที่เกิดขึ้น เพราะผมทำการฉีดฟิลเลอร์ให้ตัวเองแล้ววางมือยากครับ แต่ไม่ต้องกังวลว่า มาฉีดกับหมอเฟิสท์แล้วจะช้ำแบบนี้ไหม ในคนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับผมส่วนใหญ่จะไม่ได้ช้ำเยอะขนาดนี้ครับ เพราะฉีดให้คนไข้ยังไงก็ถนัดกว่าฉีดให้ตัวเองครับ อันนี้ให้ดูเพื่อจะได้ทราบว่าช้ำอย่างมากจะเยอะประมาณไหนครับ จะได้สบายใจครับ
อยากให้รอยช้ำหายไว ทำไงดี
ตัวผมเองเป็นคนช้ำง่ายมาก โดนกระแทกนิดหน่อยก็จะเป็นจ้ำเลือดแล้วครับ ดังนั้นถ้าคุณเหมือนกันกับผม แล้วต้องทำหัตถการที่รู้สึกว่า เราอาจจะต้องมีรอยช้ำแน่เลย แนะนำว่า หลังการทำหัตถการเสร็จ เช่น ฟิลเลอร์ ร้อยไหม ฉีดโบ ศัลยกรรม ซึ่งแน่นอนว่าทุกการทำสวยมีโอกาสเกิดรอยช้ำหมดครับ
ถ้าช้ำง่ายแนะนำว่า อย่างแรก ให้ประคบเย็นทันที ความเย็นจะช่วยรักษารอยช้ำได้อย่างรวดเร็ว จากการที่ทำให้หลอดเลือดใต้ผิวหนังแข็งตัวครับ โดยข้อควรระวังคือ ควรจะต้องมีถุงพลาสติกห่อน้ำแข็ง หรือ ผ้าห่อเอาไว้ ไม่ควรใช้น้ำแข็งมาประคบบริเวณจุดที่ทำหัตถการโดยตรง และ ห้ามกด หรือ แช่ไว้นาน ๆ ประคบอย่างเบามือที่สุดต่อเนื่อง 20 นาที ทำได้ตลอด 48 ชั่วโมงหลังการทำสวยครับ
อย่างที่สองแนะนำให้นอนหมอนสูง หรือ นอนหมอน 2 ใบ จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดบวมด้วยครับ จะหาเป็นหมอนล็อคคอก็ได้ ศรีษะจะได้ไม่ขยับไปมา ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์นอนหมอนสูงแค่ 2 – 3 วันแรกพอครับ ส่วนถ้าทำศัลยกรรม แนะนำเป็น 1 อาทิตย์ เพราะโอกาสในการบวมช้ำจะมากกว่าการทำหัตถการทั่วไปครับ
หมอฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเอง!
รอดหรือไม่รอด?
สรุป รอยช้ำใต้ตา
อยากจะบอกว่าไม่ต้องกลัวการเกิดรอยช้ำนะครับ เพราะสามารถหายไปได้เองตามปกติอยู่แล้วครับ สิ่งสำคัญที่ต้องดูแลตัวเองก็คือ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ครับ เดี่ยวทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นปกติเอง แต่ถ้าเกิดรู้สึกว่า รอยช้ำ หรือ รอยแผลแบบนี้มันผิดปกติ แนะนำว่าให้รีบกลับไปปรึกษาแพทย์ที่เราทำสวยด้วยโดยด่วนนะครับ
ขอบพระคุณครับ
นพ. ลัทธพล ม้าลายทอง (หมอเฟิสท์)
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตาและแก้ไขสายตา
First Clinic ฟิลเลอร์รอบดวงตา โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
